กวีศิลป์ - กวีศิลป์ นิยาย กวีศิลป์ : Dek-D.com - Writer

    กวีศิลป์

    หมวดย่อยมีให้เลือกว่า กลอน แต่ไม่ทราบว่าที่กำลังเขียนลงนี้เป็นกลอนหรือไม่ หากเป็นฉันท์ กาพย์หรื่อร่ายไม่ตรงกับหมวดก็ขออภัย

    ผู้เข้าชมรวม

    145

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    145

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  กลอน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 พ.ค. 55 / 21:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ๏ ณ เอกภพ อันไร้ขอบเขต...
      เป็นกาลบริเฉท เหตุปฐม
      มวลหมอกก๊าซ หมุนเกลียว ในชั้นพรหม
       ผสานผสม แรงโน้มถ่วง เหนี่ยวนำมา
      ๏ มวลก๊าซยิ่งมากมหาศาล
       บริวาร บริเวณ ยิ่งมากกว่า
      ยิ่งเพิ่มแรงหมุน เต็มอัตรา
      แรงดูดเพิ่มค่า ท้นทวี
      ๏ อนุภาคล้านล้าน มากระทบ
       ยื้อหยุด ฉุดครบ สุดแรงหนี
      แรงเหนี่ยวนำหมุนวน เต็มฤทธี
       มวลมากมี เป็นอนันต์ พลันยุบลง !
      ๏ ความหนาแน่น แม้นปริมาตร ยังเป็นศูนย์
       อนันต์คูณ เหลือเพียงจุด พิศวง ?
      ปฐมกาล พรหมลูกฟัก อุบัติองค์
       พระประสงค์ กงกรรม โองการใคร ?!(ซิงกูลาริตี้)
      ๏ เวลา...ยังไม่มี ณ ที่นั้น
       มวลอนันต์ นั้นเป็นจุด ไม่ติงไหว
      เอกภพ จักรวาล "กาล"หายไป
      สุดคำนวณ การณ์ใด ณ จุดนั้น
      ๏ สุดจะเดา ความคิด พระเป็นเจ้า
      สุดจะเอา สมการ ที่มีผัน
      จะเกิดเหตุการณ์ใด อัศจรรย์ !
      ไร้สูตรสรร ที่จะสร้าง ทฤษฎี
       
       
       

      ๏ ฉับพลันนั้น ! มหาระเบิด พลันเกิดขึ้น (Big Bang)
      บังเกิดคลื่น พลังงาน ฉายรังษี
      กาลเวลา ได้เริ่ม บังเกิดมี
      ทุกๆ ที่ รัศมี กระจายไป ฯ
      ๏ เอกภพ ก็มี ปฐมกำเนิด
       บังเกิด เป็นดารา น้อยใหญ่
      อนุภาค กระแทก กระจายไกล
      ธาตุหนักใหญ่ ค่อยควบ รวบรวมตัว
      ๏ เป็นดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ คณานัก
       ดาราจักร จักรวาล เต็มไปทั่ว
      เป็นดาวฤกษ์ ยักษ์แดง แสงมัวมัว
      หรือเป็นหัว ดาวหาง เป็นทางราย
      ๏ มีบริวาร ดาวเคราะห์ โคจรรอบ
       เช่นระบอบ สุริยะ เราอาศัย
      อยู่ใน ดาราจักร ทางช้างพลาย (ทางช้างเผือก)
      ดั่งเม็ดทราย หยิบมือ ในทะเล
      ๏ อันดาวฤกษ์ สีส้มแดง แห่งเรานี้
      อายุปี กลางดาว สุดจะเห (ดวงอาทิตย์มีอายุครึ่งอายุดาวแล้ว)
      อีกห้าพัน ล้านปี จะภินท์เพ
      จะโซเซ หม่นแดง หมดแสงดาว
      ๏ สี่พันห้าร้อยล้านปี อายุโลก
       เผชิญโชค ประสพเคราะห์ เหาะกลางหาว
      ภูเขาไฟ แผ่นดินไหว ไร้เดือนพราว
       จึงถึงคราว อุกาบาตชน จนเกิดเดือน
      ๏ เป็นดวงจันทร์ หันเหียร เวียนวิถี
       โคจรรี วงรอบ ระบอบเหมือน
      จวบถึงคราว ดาวหาง ย่างมาเยือน
       นำพาเพื่อน มีชีวิต ติดมาชน

      ๏ เมื่อแรกนั้น...บนดาว ยังร้อนอยู่
       หลอมเหลวดู เหมือนโคลนที่โดนฝน
      บรรยากาศ ก๊าซมีเทน นภดล
      เวลาพ้น จากถูกชน จนดาวเย็น
      ๏ เป็นแก่นแกนแน่นหนา บรรยากาศ
      เริ่มรวมธาตุ เป็นสสาร อย่างที่เห็น
      ไฮโดรเจ้น หลอมรวม ออกซิเจน
       คาร์บ้อนเป็น ธาตุหนัก เป็นหลักมา
      ๏ จนเกิดฝน ล้านปี มีสมุทร
       เซลล์ก็ผุด เกิดก่อ ต่อสาขา
      บ้างเป็นพืช บักเตรรี อะมีบา
      เป็นเชื้อรา กินแก๊สร้าย ให้กลายดี
      ๏ วิวัฒน์กาล ผ่านมา จนเป็นสัตว์
       สารพัด วัฒนา สปีซี่ร์
      ไซโรพอด แมมมอส สัตว์ล้านปี
       จวบจนมี กาลวิบัติ วันอัดดาว
      ๏ ไดโนเสาร์ เต่าล้านปี ที่มีอยู่
      ต่างตายหมู่ อุกาบาตชน จนดาวหนาว
      ฝุ่นคลุ้งคลุม ยุคน้ำแข็ง อันเย็นยาว
       จึงถึงคราว วิวัฒน์ อุบัติชน
      ๏ เจ็ดล้านปีที่ผ่าน ยังคลานอยู่
       จนยืนคู่ สองเท้า เมื่อคราวหน
      สี่ล้านปี ให้หลัง จึงเป็นคน
       รู้เหตุผล ค้นประดิษฐ์ คิดเครื่องมือ ฯฯฯ

       
      กาพย์ฉบัง ๑๖
      ๏ โลกเปลี่ยนเวียนวันผันแปร ทุกสิ่งที่แล
      ไม่เที่ยงไม่แท้ แน่นอนฯ
      ๏ ดาวเคียงหมุนรียงสลอน อนุภาคโฟรตอน
      ควบขึงดึงถอน รอนแรงฯ
      ๏ ซุปเปอร์โนวาพาแสง รังษีแอบแฝง
      สำแดง ปะทะพลังฯ
      ๏ หลุมดำดึงดูดดาวรั้ง เก็บกักแสงขัง
      ดาราจักรยุบยั้งพังภินท์ฯ

      กาพย์ยานี ๑๑
      ๏ ส่งผลกระทบโลกร้อน โคจรแกนเอียงเฉียงผิน
      เป็นเวรเป็นกรรมราคิน ตัดสินวันสิ้นโลกาฯ

      กาพย์ฉบัง ๑๖
      ๏ ช้างม้าวัวควาย กินหลายผักหญ้า
      กระเพาะหมักก๊าซพา มีเทนทะลุโอโซนฯ
      ๏ สำแดงแรงร้อนแห่งหน น้ำแข็งโดนลน
      ละลายเติมท้นนทีฯ
      ๏ เกิดเป็นมหา อุทกวารี
      ท่วมท้นวิถี ท่วมโลกมีตำนานฯ

      กาพย์ยานี ๑๑
      ๏ แผ่นหิน เปลือกโลกเคลื่อน แรงเขยื้อนมหาศาล
      สั่นไหวใต้บาดาล จากสันฐานใต้ทะเล
      เกิดเป็นคลื่นนรก ม้วนอุทกสุดหลบเห
      ดินดานพาลโฉเก บรรพตเท ทับยับไป
      โลกเปลี่ยนวันเวียนผัน ช่วยสร้างสรรกันทางไหน
      รอดอยู่หรือบรรลัย ร่วมสมัยใครจะทำฯ

      ๏ โลกเปลี่ยนไม่เที่ยงแท้ ทุกสิ่งแปรกี่ฉนำ
      จำเริญหรือระยำ ทุกๆกรรมต่างทำเองฯ

      ...ทุกๆกรรมต่างทำเองฯ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×